ไชน่าทาวน์ชะช่า for Dummies

ไชน่าทาวน์ชะช่า for Dummies

Blog Article

ส่วนสิ่งที่เป็นทั้งจุดเด่นและข้อสังเกตในเวลาเดียวกัน เห็นจะเป็นการออกแบบฉากแอ็กชันที่ผสมผสานมุกตลกขบขันออกมาได้ค่อนข้างลงตัว โดยเฉพาะพาร์ตตัวละครสามผู้เฒ่าอย่าง เซียนแปะ (จิ้ม ชวนชื่น), เซียนเล่า (นุ้ย เชิญยิ้ม) และ เซียนกวน (ธงธง มกจ๊ก) ที่เรียกได้ว่ารับ-ส่งมุกกันอย่างลื่นไหล จนส่งให้พวกเขาเป็นตัวละครแย่งซีนประจำเรื่อง แต่ขณะเดียวกันก็มีบางช่วงบางตอนที่ภาพยนตร์พยายามจะขยี้มุกตลกมากเกินไป จนทำให้มีช่วงที่ดูยืดเยื้อเกินจำเป็นไปสักหน่อย 

“เราสนิทกันมากครับ” พัคโบกอมพูดถึงประเด็นข่าวลือเรื่องการเดตกับแบซูจี

คําสาปแช่งและความซวยจะยังคงอยู่ต่อไปหรือไม่?

อย่างไรก็ตาม แม้ว่า ไชน่าทาวน์ ชะช่า จะเนืองแน่นด้วยองค์ประกอบที่น่าสนใจ แต่บาดแผลสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อภาพรวมทั้งหมด เห็นจะเป็นการเล่าเรื่องที่ดูครึ่งๆ กลางๆ ไม่มุ่งเน้นไปในทางใดทางหนึ่งอย่างชัดเจน 

การท่องเวลาเฮฮาไปกับโชคชะตาต้องคำสาป ที่พาแต่จะสร้างเรื่องวุ่น และความรักสุดอลหม่าน เมื่อความซวย ส่งส่วย จากต้นตระกูลสู่รุ่นลูก หมวยซ่า พร้อมสู้ย้อนเวลาล้างซวย เพื่อพลิกชะตาชีวิต “กี้” สาวนักศึกษาคณะประวัติศาสตร์ที่ชีวิตประสบพบกับความซวยมาตั้ งแต่ยังไม่ลืมตาดูโลก ไม่ใช่แค่กี้เท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงพ่อแม่ของเธอด้วย เรียกได้ว่าพาซวยกันทั้งบ้าน!

Your browser isn’t supported any more. Update it to obtain the most effective YouTube knowledge and our newest capabilities. Find out more

ขณะที่ทีมนักแสดงสมทบคนอื่น ๆ ก็เป็นไปตามเนื้อผ้าของหนังตลกแนวนี้ เพราะแทบจะยกทีมตลกคาเฟ่คนสนิทของผู้กำกับมาทั้งแผง ไม่ว่าจะเป็น "นุ้ย เชิญยิ้ม", "จิ้ม ชวนชื่น" หรือ "ธงธง มกจ๊ก" แท็กทีมกันมาสร้างสีสันและยิงมุก ทั้งที่ตลกและไม่ตลกปะปนกันไป พร้อมทั้งเล่านักแสดงรับเชิญที่มาเพียงแค่มีซีนความสนุก แบบเซอร์วิสแฟนหนังได้พึงพอใจตลอดทั้งเรื่อง

แต่กลายเป็นว่าสปอตไลต์ไปจับจ้องอยู่ที่ "มาร์ช จุฑาวุฒิ" แทน นับว่าเป็นอีกคนที่ค่อยข้างรับบทหนักและเป็นตัวละครเดินเรื่องที่สำคัญ การที่ต้องมารับบทชายในร่างหญิง แม้ว่าจะไม่ใช่อะไรที่แปลกใหม่ แต่เขาก็ถ่ายทอดออกมาได้ในลักษณะเคอะเขินเป็นธรรมชาติอย่างน่าเอ็นดู ถือว่าเขาเป็นคาแรกเตอร์ที่มาช่วยแบกหนังเอาไว้อย่างหนักอึ้ง เป็นได้ทั้งมือขวาและยังมีเคมีความจิ้นที่เข้ากับนักแสดงชายด้วยกันเองได้สุดจึ้ง

แต่ที่ค่อนข้างใช้ได้และต้องชื่นชมก็คงจะเป็นงานคอสตูม ที่ถือว่าเก็บรายละเอียดความเป็นไทย-จีนในยุคสมัยนั้นได้น่าพอใจ ถึงอาจจะไม่ได้เป็นงานเสื้อผ้าที่ละเอียดยิบอะไรขนาดนั้น แต่ต้องยอมรับว่าเสื้อผ้าหน้าผมของนักแสดงในพาร์ทย้อนอดีต มีส่วนช่วยในการเซ็ตไทม์ไลน์ของหนังให้ดูมีความสมจริงได้ดีอยู่ในระดับที่พึงพอใจ

รีวิวหนัง ไชน่าทาวน์ชะช่า "ไชน่าทาวน์ ชะช่า" มะรุมมะตุ้มทะลุมิติสู่ยุคอั้งยี่ ขำขันแบบตลกคาเฟ่

วันหนึ่งกี้อดทนไม่ไหว ไปบนบานขอร้องให้เหล่าเทพที่ศาลเจ้าช่วยล้างซวย ทําให้กี้ได้เจอกับ “เซียนแปะ” ม้าทรงปริศนาที่มาไขข้อข้องใจว่าความซวยของบ้านกี้มาจากนํ้ามือของ เหล่าก๋งของเธอ นามว่า “คุ้ง” ที่เป็นอั้งยี่ตัวร้าย จนโดนคนทั้งหลายรุมสาปแช่งตอนตาย ส่งผลเป็นความซวยที่ตระกูลกี้ต้องเจอสืบต่อกันมา แม้ไม่อยากจะเชื่อ แต่สุดท้ายกี้ก็ขอให้เซียนแปะทําพิธีล้างซวยให้ตระกูล นั่นเป็นจุดที่ทําให้เธอได้เจอกับเหตุการณ์วายป่วงเกินบรรยาย เพราะกี้ดันย้อนกลับไปยุคของเหล่าก๋งแถมยังไปอยู่ในร่างของ “ไถ่” หนุ่มมือขวาคนสนิทของคุ้ง ที่เพิ่งถูกฆ่าตายไปอีกต่างหาก

มิ้นท์-รัญชน์รวี เอื้อกูลวราวัตร รับบท กี้

อ่านข่าวต่อ : “มิ้นท์ รัญชน์รวี” ฮอตต่อไม่รอแล้วนะประกบคู่ “อาเล็ก ธีรเดช”

ก่อนจะเริ่มละเลงรีวิว...ต้องขอสูดลมหายใจลึก ๆ สักฟอด เพราะการคัมแบ็กงานกำกับอีกหนในครั้งนี้ของลุงรงค์ ถือว่ายังคงรักษามาตรฐานความเป็นนักสร้างหนังของเขาไว้อย่างเสมอต้นเสมอปลาย เทคนิคและจังหวะการหยอดมุก สร้างอารมณ์ให้กับคนดูยังแพรวพราวไม่มีเปลี่ยน เพียงแต่ว่ายุคสมัยที่เปลี่ยนไปเป็นสิบ ๆ ปีแล้ว ต้องยอมรับว่าบางโทนและบางลีลาของลุงรงค์ก็ค่อนข้างจะตกยุคไปประมาณหนึ่งแล้วเช่นกัน